ไอ ซิสเต็ม

บทความ

ก่อนการเลือกตัดสินใจเลือกซื้อกล้องวงจรปิด ควรศึกษาข้อมูลเบื้องต้นทราบกันไว้ก่อน

22-06-2560 15:11:51น.

ก่อนการเลือกตัดสินใจเลือกซื้อกล้องวงจรปิด

ควรศึกษาข้อมูลเบื้องต้นทราบกันไว้ก่อน

     หากคุณคิดจะติดตั้งระบบกล้องวงจรปิดแล้วไม่รู้ว่าจะเลือกกล้องแบบไหนดี และอยากรู้ว่าต้องใช้งบประมาณเท่าไหร่ ลองมาดูบทความนี้กันครับว่า ระบบกล้องวงจรปิดโดยรวมว่ามีกี่แบบ ความคมชัดระดับไหน ราคาเท่าไหร่กันบ้าง

 

     ก่อนอื่นเลย สิ่งที่ควรทราบ คือ กล้องวงจรปิด และ เครื่องบันทึก จะต้องมีเทคโนโลยีที่สัมพันธ์กัน ปัจจุบันเราแบ่งเป็น 3 ประเภท คือ

 

1. แบบอนาล็อคแบบเดิมที่ความละเอียดเป็น TVL (TV Line) ซึ่งในปัจจุบันจะอยู่ที่ระดับ 600-720 TVL



ตัวอย่างภาพจากกล้อง ระบบ TVLine 700 TVL

 

2. อนาล็อคแบบใหม่ ความคมชัดระดับ HD เป็นระบบ High Definition Transport Video Interface จะมี 2 แบบ คือ AHD และ HDTVI  มีความละเอียดสูงเป็น Pixel ปัจจุบันมีความละเอียดเริ่มต้นที่ 720p (1Mp) หรือที่ความละเอียด 1 ล้านพิกเซล , 960p (1.3Mp) หรือที่ความละเอียด 1.3 ล้านพิกเซล และ 1080p (2Mp) หรือที่ความละเอียด 2 ล้าน พิกเซล นั่นเอง

ตัวอย่างภาพจากกล้อง ระบบ HDTVI 1Mp

 

3. แบบดิจิตอล หรือ แบบ IP Camera หรือ กล้องไอพีนั่นเอง ระบบนี้จะใช้สาย LAN (cat5e,cat6) จะมีความชัดของกล้องตั้งแต่ระดับ VGA (600x480) ไปจนถึง 5Mp (5ล้านพิคเซล) เลยทีเดียว ทำให้สามารถขยายภาพหน้าผู้บุกรุกโจรขโมย ดูพฤติกรรมพี่เลี้ยง ตรวจสอบการทำงานของพนักงานลูกจ้าง ภาพทะเบียนรถผู้ก่อเหตุร้าย ได้ใหญ่ชัดเจนมาก เป็นประโยชน์ในการชี้ตัวในการไต่สวน สืบสวนได้ดียิ่งขึ้น


ตัวอย่างภาพจากกล้อง 3Mp (3ล้านพิคเซล)


         หากลูกค้าต้องการจะติดตั้งกล้องใหม่ทั้งระบบแนะนำให้ใช้ระบบ HDTVI ดีกว่าด้วยราคาของอุปกรณ์ที่ไม่ต่างกันมาก แค่สูงกว่าแบบ TVL เดิมประมาณ 30% แต่คุณภาพของภาพที่ได้คมชัดในระดับ HD และภาพยังสามารถนำไปขยายเพื่อติดตามคนร้ายได้ด้วย หรือถ้าหากต้องการเปลี่ยนอุปกรณ์เครื่องบันทึกที่ชำรุดใหม่ก็แนะนำให้เปลี่ยนจากเครื่องบันทึกในระบบเดิม (TVL) มาเป็นระบบ HDTVI เพราะสามารถใช้สาย RG6 ที่มีเดิมได้ไม่ต้องเปลี่ยนใหม่ และสามารถนำกล้องที่มีอยู่เดิมใช้ร่วมกันได้กับกล้องใหม่ในระบบ HDTVI ที่จะติดตั้งเพิ่ม ทั้งนี้ภาพที่ได้ขึ้นอยู่กับคุณภาพกล้องเดิมด้วย
         แต่ถ้าคุณต้องการคมชัดระดับสูง ก็แนะนำเป็นแบบดิจิตอล หรือ แบบ IP Camera ราคาก็จะสูงกว่าในระบบอนาล๊อคที่เป็น TVL เดิมอยู่ถึง 70% เลยทีเดียว แต่ข้อดีของระบบ IP นี้คือ กล้อง IP ส่วนใหญ่ร้อยละ 95% มีระบบถ่ายย้อนแสงได้ (BLC) ทำให้ได้ภาพคมชัดที่สามารถนำไปใช้ได้จริง
        กล้องวงจรปิดมีชุดอุปกรณ์ประกอบหลัก คือ
  1. กล้องวงจรปิด
  2. เครื่องบันทึก
  3. ฮาร์ดดิสก์
  4. จอแสดงผล สามารถดูได้ 2 แบบ คือ ผ่านจอมอนิเตอร์ และ แบบออนไลน์ผ่านจอมือถือ Tablet ระบบปฏิบัติการ iOS หรือ Android
  5. สายนำสัญญาณ สาย RG6 สาย Lan Cat5e Cat 6
          และอุปกรณ์เสริมที่มีความสำคัญกับระบบกล้องวงจรปิด ได้แก่
  • อุปกรณ์กันไฟกระชาก กันฟ้าผ่า กันไฟเกิน กันไฟตก Surge Protection และ VDO Surge
  • เครื่องสำรองไฟฟ้า (UPS)
         เป็นต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมว่าควรจะใช้อุปกรณ์เสริมแบบใดที่เหมาะสม






       เครื่องบันทึก เป็นศูนย์กลางของระบบและเป็นหัวใจสำคัญที่สุด เป็นสิ่งที่ต้องคำนึงถึงเป็นอันดับแรกนั่นเอง เครื่องบันทึกก็มี 2 ประเภท คือ DVR (Digital Video Recorder)  และ แบบ IP คือ NVR (Network  Video Recorder) และต้องใช้กับกล้อง IP Camera เท่านั้น โดยส่วนมากไม่นิยมใช้เครื่องบันทึกและกล้องข้ามยี่ห้อกัน เนื่องจากความกันได้ของเทคโนโลยีในระบบ IP นี้




     กล้องวงจรปิด มีหลากหลายขนาดและรูปแบบ แต่สามารถแบ่งออกเป็นประเภทใหญ่ ๆ ได้ 5  ประเภทคือ

1.กล้องมาตรฐาน หรือ กล้อง  BOX

                กล้องประเภทนี้ลักษณะจะเป็นกล่อง ๆ ต้องซื้อเลนส์แยกตามประเภทงานที่ต้องการใช้ กล้องประเภทนี้ไม่กันแดดไม่กันน้ำ จะต้องใช้ Housing เพื่อช่วยให้สามารถกันแดดและกันน้ำได้ ตัวอย่างเช่นกล้องจราจรที่ติดตามถนน



กล้อง Box หรือกล้องกระบอก

ข้อดีของกล้องรูปแบบนี้คือสามารถเปลี่ยนเลนส์ได้หลายขนาดทั้งโฟกัสสั้น ยาว หรือแบบแบบปรับขนาดโฟกัส และรูรับแสงอัตโนมัตเวลากล้องย้อนแสง (Auto iris)




เลนส์ Tamron จากญี่ปุ่นแท้ปรับรูรับแสงอัตโนมัต Auto iris

ทั้งนี้หากลูกค้าต้องการนำกล้องไปติดตั้งภายนอกอาคารที่โดนแดดโดนฝน จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์กันแดดกันฝนที่เรียกว่า Housing และขา Housing

                           

2.กล้อง Bullet

กล้องชนิดนี้นิยมใช้กันอย่างมากเพราะติดตั้งง่ายและมีหลอดอินฟราเรด (ir) ติดมาด้วย ทำให้สามารถมองเห็นภาพในตอนกลางคืนในสภาพแสงมือสนิทได้เป็นภาพขาวดำ มีหลายขนาดยิ่งหลอด ir มากหรือใหญ่ก็สามารถส่องได้ไกลขึ้น กล้องชนิดนี้ไม่สามารถเปลี่ยนเลนส์ได้ ต้องเลือกระยะโฟกัสตั้งแต่ตอนสั่งซื้อเลยเช่น โฟกัส 3.6 จะได้ภาพที่กว้าง แต่ระยะชัดจะอยู่ที่ 3.6 เมตร เหมาะสำหรับมิงภาพรวมที่มีพื้นที่กว้าง ๆ หรือโฟกัส 6 จะเห็นภาพที่แคบลงแต่ระยะชัดจะอยู่ที่ 6 เมตร เหมาะสำหรับส่องทางเดินยาว ๆ




กล้อง Bullet ระยะส่อง ir ประมาณ 20 เมตร


กล้อง Bullet ระยะส่อง ir ประมาณ 20-40 เมตร



กล้อง Bullet ระยะส่อง ir ประมาณ 80 เมตร

Approximate Horizontal angles of view for CCD Chip Cameras

 Focal Length


2/3"


1/2"


1/3"


1/4"


2.0mm

-

-

-

82

2.8mm

 -

 -

86

57

 4.0mm

-

 77

67

 47

 4.8mm

83

67

57

40

 6.0mm

70

56

48

 32

 8.0mm

56

 44

36

25

 12mm

39

30

25

17

 16mm

 30

 23

17

13

  25mm

18

15

12

 8

  50mm

10

7

6

4



จากตารางจะเห็นได้ว่า ยิ่งค่าของ Focal Length ยิ่งสูง มุมมองของภาพที่ได้จะยิ่งแคบลง แต่เห็นได้ไกลมากขึ้น แต่ถ้าค่าของ Focal Length ยิ่งต่ำ ภาพที่ได้จะมีมุมมองที่กว้างมากขึ้น แต่ระยะทางก็จะสั้นลงโดยจะมีค่าสัมพันธ์กับขนาดของเซ็นเซอร์ด้วย

 

3.กล้องโดม Dome Camera

              
  

ภาพกล้องโดมแบบต่าง ๆ

            กล้องโดมนิยมติดตั้งภายในอาคารเพราะให้ความรู้สึกสวย ดูกลมกลืนกับฝ้าเพดารสามารถปรับมุมส่าย ก้มเงยได้ตั้งแต่ตอนติดตั้ง ไม่ใช่แบบสั่งให้หมุนได้อัตโนมัติ

 

4.กล้อง Cube

            กล้องชนิดนี้จะเป็นกล้อง IP โดยส่วนใหญ่จะมีไมโครโฟนและลำโพงในตัว สามารถฟังและพูดกลับมาที่กล้องได้ผ่าน application จาก smartphone กล้องชนิดนี้จะไม่กันน้ำและกันแดด เหมาะกับใช้ภายในอาคารเท่านั้น


กล้อง Cube

5.กล้อง Speed Dome หรือกล้อง PTZ (Pan Tilt Zoom)

                กล้องชนิดนี้จะมีราคาที่สูงที่สุดตั้งแต่ หมื่นปลาย ๆ เป็นต้นไป กล้อง speed dome มีความสามารถในการสั่งให้หมุน,ก้มเงย และซูมได้จากเครื่องบันทึกและผ่าน application ในบางรุ่นยังสามารถ track กล้องตามวัตถุที่เคลื่อนไหวได้ด้วยโดยส่วนใหญ่จะกันน้ำและทนแดด สามารถติดตั้งนอกอาคารได้




สายนำสัญญาณ

สายนำสัญญาณที่ใช้ในระบบกล้องอนาล็อค ทั้งในแบบ TVL และ HDTVI เราจะใช้สาย RG6 ชิลด์ 95% เพื่อป้องกันสัญญาณรบกวนในระบบภาพ



สาย RG6

หากเราใช้สาย RG6 แล้วเราจะต้องมีสายไฟต่างหากเพื่อจ่ายไฟให้กล้องอาจจะเป็นสาย VFF ,VCT ,THW แล้วแต่ความเหมาะสมของหน้างาน

โดยช่างทั่วไปที่เน้นงานติดตั้งราคาถูก ประหยัดสายไฟ จะทำการจั๊มไฟจากบริเวณใกล้เคียงกับที่ติดตั้งกล้องจะใช้ระยะสายไฟที่น้อยกว่า ประหยัดค่าสายไฟกว่า แต่ข้อเสียคือ จะไม่มีความเสถียรของระบบ เนื่องจากการแยกจั๊มไฟในบริเวณใกล้กล้องทำให้ไม่สามารถสำรองไฟในเวลาที่ไฟดับได้

ดังนั้น หากต้องการให้ระบบทำการบันทึกได้อย่างต่อเนื่องแม้เวลาที่ไฟฟ้าขัดข้อง จะต้องเดินไฟแบบมารวมที่ศูนย์กลาง คือ เดินไฟจากกล้องทุกตัวมาพร้อมสายสัญญาณ ให้มารวมที่เดียวกันเพื่อเข้าระบบ เครื่องสำรองไฟ UPS และเพื่อความเหมาะสมในการติดตั้งแนะนำให้เปลี่ยนจากสาย RG6 ธรรมดาเป็นสาย RG6 พร้อมสายไฟ ซึ่งสายชนิดนี้จะมีทั้งสายสัญญาณและสายไฟเดินคู่ไปด้วยกัน


สาย RG6 แบบมีสายไฟในตัว

   

สาย LAN (UTP) cat5e,cat6

                สาย LAN เราจะใช้กับกล้องระบบ IP Cemera ที่ใช้ NVR เป็นตัวบันทึก เนื่องจากระบบ IP นี้จะใช้สาย LAN ทั้งหมดจะอยู่ในรูปของ Computer Network โดยในรุ่นที่เครื่องบันทึกไม่มีระบบ POE (Power on Ethernet) การเดินสาย LAN ควบคู่ไปกับสายไฟจะประหยัดกว่าการซื้อระบบ POE เพิ่มเติมแต่หากเป็นรุ่นทีเครื่องบันทึกมีระบบ POE เลยจะสามารถเดินสาย LAN เพียงเส้นเดียวก็สามารถใช้งานได้เลย

**POE (Power on Ethernet) คือระบบที่จะจ่ายไฟเลี้ยงอุปกรณ์ไปกับสาย LAN ได้เลย




Harddisk (HDD)

                Harddisk คือตัวบันทึกข้อมูลที่จะใส่อยู่ในเครื่องบันทึก DVR, NVR อีกทีนึง ซึ่ง Harddisk ที่จะนำมาใช้กับเครื่องบันทึกควรจะเป็นเกรดที่ใช้กับกล้องวงจรปิดโดยเฉพาะ เช่น WD purple หรือ Seagate SV35 เพราะเครื่องบันทึกกล้องวงจรปิดจะทำงานแบบ 24/7 คือไม่มีเวลาหยุดพักการเขียนเลย หากเรานำ Harddisk ที่ใช้กับคอมพิวเตอร์ทั่วไปมาใส่จะทำให้ระบบรวนและเสียเร็วขึ้น Harddisk แบบนี้จึงมีราคาสูงกว่าแบบทั่วไปเล็กน้อย ขนาดความจุจะมีตั้งแต่ 500Gb ,1Tb ,2Tb ,3Tb,4Tb โดนการเลือกขนาด HDD นี้จะขึ้นอยู่กับจำนวนวันที่ต้องการบันทึก ตัวอย่างเช่น

จำนวนกล้อง

ชนิดกล้อง

ขนาด HDD

ความละเอียด

จำนวนวัน

4

TVL

1Tb

720 TVL

14-16

4

HDTVI

1Tb

720p(1Mp)

7

4

IP CAM

1Tb

1.3Mp

5-6

 

ตัวอย่างจำนวนวันที่บันทึกได้นี้ไม่รวมการบันทึกสัญญาณเสียง



ปลั๊กกันไฟกระชาก

                ปลั๊คกันไฟกระชากตัวนี้จะป้องกันทั้งจากระบบไฟที่ไฟเกินและฟ้าผ่า นี่คือเหตุผลที่เรานำนำให้เดินไฟแบบรวมศูนย์ เพื่อนำอปกรณ์ทั้งระบบเข้าปลั๊คไฟกันกระชาก เพื่อป้องกันอุปกรณ์ทั้งระบบ เพราะราคาปลั๊คไฟไม่ได้แพงมาก ราว ๆ 1,200-3,000 แล้วแต่ขนาดของอุปกรณ์ซึ่งคุ้มกว่าค่าอุปกรณ์ที่จะเสียหาย




เครื่องสำรองไฟฟ้า (UPS)

อุปกรณ์อีกชิ้นนึงที่ควรจะมีในระบบกล้องวงจรปิดคือ เครื่องสำรองไฟหรือ UPS ซึ่งมีหลายขนาดตามแต่จำนวนไฟที่อุปกรณ์ต้องการและระยะเวลาที่ต้องการสำรองไฟโดยสามารถคำนวนหาขนาด UPS ทีต้องการได้ง่าย ๆ ตามสูตร ค่ากำลังของ UPS จะมีหน่อยเป็น VA

VA = Watt x 1.4

ที่ต้องทราบคือกำลังไฟที่อุปกรณ์ต้องการทั้งหมด (Watt) มีเท่าไหร่ ดูได้จากตัวอุปกรณ์ เช่น กล้องทั้งหมด 4 ตัว ใช้กำลังไฟตัวละ 7w DVR ใช้กำลังไฟ 23w (รวม HDD ในเครื่องแล้ว) เราท์เตออร์ ใช้กำลังไฟ 4 w ดังนั้น

กำลังไฟขั้นต่ำของ UPS ที่ต้องการ =((4x7)+23+4)x1.4 =77VA

หากกำลังไฟขั้นต่ำของ UPS =77 VA จะสำรองไฟได้ประมาณ 5 นาทีถ้าเราเลือก UPS ที่มีกำลังไฟ 850 VA จะสำรองไฟได้ = (850/77)x5 = 55 นาที